มหาวิทยาลัยดุ๊ก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ชื่อเดิม | Brown School (1838–1841) Union Institute (1841–1851) Normal College (1851–1859) Trinity College (1859–1924) |
---|---|
คติพจน์ | Eruditio et Religio (ลาติน)[1] |
คติพจน์อังกฤษ | Knowledge and Faith[2] |
ประเภท | มหาวิทยาลัยเอกชน |
สถาปนา | พ.ศ. 2381 |
ทุนทรัพย์ | 4.8 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ [3] |
อธิการบดีมหาวิทยาลัย | Richard H. Brodhead |
อาจารย์ | 3,138 คน [4] |
ผู้ศึกษา | 14,248 คน [4] |
ปริญญาตรี | 6,504 คน [4] |
บัณฑิตศึกษา | 7,744 คน [4] |
ที่ตั้ง | เมืองเดอแรม รัฐนอร์ทแคโรไลนา , , 36°0′4″N 78°56′20″W / 36.00111°N 78.93889°W |
วิทยาเขต | เขตเมือง 8,610 เอเคอร์ (34.8 ตารางกิโลเมตร) |
สี | น้ำเงินเข้ม และ ขาว [5] |
ฉายา | Blue Devils |
เว็บไซต์ | duke.edu |
มหาวิทยาลัยดุ๊ก (อังกฤษ: Duke University) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองเดอแรม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1838 ที่เมืองไทรนิทีภายใต้ชื่อ Brown's Schoolhouse และได้ย้ายมายังเมืองเดอแรมในปี ค.ศ. 1892[6] และเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยดุ๊ก เพราะได้รับการบริจาคเงินจากราชายาสูบ เจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 6,578 คน (ค.ศ.2010) และมีพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยจำนวน 8,709 เอเคอร์ ใช้ระบบเทอมการศึกษาตามรูปแบบปฏิทินการศึกษา มหาวิทยาลัยดุ๊กจัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดประจำปีค.ศ.2011 มหาวิทยาลัยดุ๊กมีชื่อเสียงในด้านวิชาการหลายด้าน ซึ่งในปี 2551 ทางนิตยสารยูเอสนิวส์จัดอันดับมหาวิทยาลัยในส่วนระดับปริญญาตรีเป็นอันดับ 8 ของประเทศ[7] ซึ่งนอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงมากในด้านกีฬา โดยได้แข่งขันในลีกแอตแลนติกโคสต์คอนเฟอเรนซ์ ซึ่งได้ชนะเลิศบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 4 ครั้ง
ประวัติมหาวิทยาลัยและเจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก
[แก้]ในปีค.ศ. 1838 มหาวิทยาลัยดุ๊กได้เริ่มต้นขึ้นภายใต้ชื่อ Brown's Schoolhouse และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยไทรนิที ในปีค.ศ. 1859
ใน ปี.ค.ศ. 1881เจมส์ บอนแสค (James Bonsack) สามารถประดิษฐ์เครื่องมวนใบยาด้วยกระดาษอัตโนมัติ บอนแสคได้ผลิตใบยาที่ห่อด้วยกระดาษออกมาอย่างรวดเร็วและมากมาย โดยเรียกผลิตภัณฑ์นี้ว่าซิกาแรต (บุหรี่) แต่ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อบอนแสคไม่ทราบว่าจะเอาบุหรี่ที่ผลิตออกมานี้ไปขายให้ใครจึงตัดสินใจนำเครื่องจักรไปขายต่อให้ เจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก (James Buchanan Duke) ที่เมืองเดอแรม (Durham) รัฐนอร์ทแคโรไลนา ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมวนใบยาอัตโนมัติ ดุ๊ก ได้ตั้งบริษัทผลิตใบยาใหญ่โตขึ้นที่รัฐนิวยอร์ก ใช้วิธีการโฆษณาเจาะตลาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ในเวลาไม่นานบุหรี่ก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายส่งผลให้บริษัทของเขากลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อดุ๊กร่ำรวยอย่างมหาศาลเขาจึงตัดสินใจสร้างมูลนิธิ The Duke Endowment ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคม และเงินบริจาคก้อนหนึ่งได้ถูกจัดเก็บไว้เพื่อช่วยเหลือวิทยาลัยไทรนิทีในเมื่องบ้านเกิดของเขา เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ตระกูลดุ๊ก วิลเลียม ฟิวส์ เพรสตัน อาจาร์ใหญ่ของวิทยาลัยไทรนิทีในเวลานั้นได้เปลี่ยนชื่อวิทยาลัยไทรนิทีเป็นมหาวิทยาลัยดุ๊ก
ชื่อเสียงทางด้านวิชาการ
[แก้]มหาวิทยาลัยดุ๊กประกอบด้วยคณะและวิทยาลัยจำนวน 10 แห่ง ให้บริการแก่นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Fuqua School of Business, Pratt School of Engineering, School of Law, School of Medicine, Sanford School of Public Policy และ School of Nursing นอกจากนี้มหาวิทยาลัยดุ๊กยังมีหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างสูง คือ Divinity School และ Nicholas School of the Environment
ชื่อเสียงทางด้านกีฬา
[แก้]มหาวิทยาลัยยังมีชื่อเสียงมากในด้านกีฬา โดยได้แข่งขันในลีกแอตแลนติกโคสต์คอนเฟอเรนซ์ ทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยดุ๊กชื่อ Duke Blue Devils ยังคงประเพณีการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยระหว่างมหาวิทยาลัยดุ๊ก และมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ามีนักกีฬาบาสเก็ตบอลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมการแข่งขัน เสมอ มหาวิทยาลัยดุ๊กเป็น 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันบาสเก็ตบอลภายในประเทศ
บุคคลสำคัญจบจากมหาวิทยาลัย
[แก้]- ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา
- ริคาโด ลากอส อดีตประธานาธิบดีของประเทศชิลี
- สก็อต บลิสเตอร์ หัวหน้าผู้พิพากษาสูงสุดของรัฐเท็กซัส
- สตีเว่น แบลก์ รองประธานกรรมการบริษัทเจพีมอร์แกนเชส
- เมลินดา เกตส์ ภรรยาของ บิล เกตส์และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ King, William E. "Shield, Seal and Motto". Duke University Archives. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-12. สืบค้นเมื่อ July 6, 2011.
- ↑ "About - Duke Divinity School". Duke Divinity School. สืบค้นเมื่อ July 4, 2011.
- ↑ As of June 30, 2010. "Duke University's Endowment" (Article). Duke University. สืบค้นเมื่อ February 9, 2011. Beneficiary of Duke Endowment
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 "Quick Facts about Duke". Duke Office of News & Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-05. สืบค้นเมื่อ July 4, 2011.
- ↑ "The origin of Duke Blue". Duke University Archives. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-12. สืบค้นเมื่อ 2008-05-23.
- ↑ "King, William E. A Brief Narrative History. Duke University Libraries, 2002". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-10. สืบค้นเมื่อ 2008-03-19.
- ↑ America's Best Colleges 2008. U.S. News & World Report, 2007.