สโมสรฟุตบอลดาเกแนมแอนด์เรดบริดจ์
ชื่อเต็ม | Dagenham & Redbridge Football Club | |
---|---|---|
ฉายา | เดอะ แดกเกอส์ | |
ก่อตั้ง | 1992 | |
สนาม | เดอะชิกเวลล์ คอนสตรัคชัน สเตเดียม | |
ความจุ | 6,078[1] | |
เจ้าของ | ทรินิตี สปอร์ต โฮลดิงส์ | |
ผู้จัดการ | ดารีล แม็คมาน | |
ลีก | เนชันนัล ลีก | |
2019–20 | อันดับ 17, เนชันนัล ลีก | |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |
| ||
สโมสรฟุตบอลดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ (อังกฤษ: Dagenham & Redbridge Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เขตดาเกแนม เมืองบาร์กกิง แอนด์ ดาเกแนม ทางตะวันออกของมณฑลเกรเทอร์ลอนดอน มีฉายาว่า เดอะ แดกเกอส์ ปัจจุบันลงแข่งขันในระดับเนชันนัลลีก ซึ่งเป็นลีกระดับ 5 ในระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 จากการควบรวมกิจการของ สโมสรฟุตบอลเรดบริดจ์ ฟอเรสต์ และ สโมสรฟุตบอลดาเกแนม ไว้ด้วยกัน โดยมักถูกสื่อมวลชนและแฟนฟุตบอลเรียกอย่างย่อว่า ดาร์เกแนม และเขียนชื่อสโมสรอย่างย่อว่า แด้ก แอนด์ เรด
สโมสรมีสนามเหย้าคือสนาม เดอะ ชิกเวลล์ คอนสตรัคชัน สเตเดียม และมีคู่แข่งสำคัญในละแวกลอนดอนตะวันออกคือสโมสรฟุตบอลเลย์ตัน โอเรียนท์ โดยผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรคือการจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 21 ในลีกวัน ฤดูกาล 2010–11
ประวัติสโมสร
[แก้]ส่วนของเรดบริดจ์ ฟอเรสต์
[แก้]รากฐานของสโมสรเกิดขึ้นที่แถบลอนดอนตะวันออก ของเกรเทอร์ลอนดอน เริ่มจาก สโมสรฟุตบอลอิลฟอร์ด ที่ก่อตั้งในปี 1881 ได้ย้ายออกจากย่านอิลฟอร์ด ไปยังเลย์ตันสโตน และควบรวมกิจการกับ สโมสรฟุตบอลเลย์ตันสโตน ในปี 1979 เพื่อก่อตั้งเป็นสโมสรใหม่คือ สโมสรฟุตบอลเลย์ตันสโตนแอนด์อิลฟอร์ด ต่อมาในปี 1988 ก็ได้มีการควบรวมกิจการกับสโมสรอื่นอีกครั้งโดยรวมกับ สโมสรฟุตบอลวอลแทมสโตว์ อเวนิว และย้ายไปใช้สนามเหย้าที่วอลแทมสโตว์ แต่มิได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ โดยเลย์ตันสโตนแอนด์อิลฟอร์ด สามารถคว้าแชมป์ลีกระดับสมัครเล่นอิสท์เมียนลีก ฤดูกาล 1988–89 ได้สำเร็จ แต่ไม่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในระดับคอนเฟเรนซ์ซึ่งเป็นลีกกึ่งอาชีพได้เนื่องจากสนามเหย้าเดิมได้ถูกขายให้กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วและสโมสรไม่สามารถหาสนามเหย้าที่ผ่านมาตรฐานของลีกกึ่งอาชีพ ก่อนที่ในปีต่อมาสโมสรจะเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลเรดบริดจ์ ฟอเรสต์ และทำการยืมสนามวิกตอเรีย โรด ของสโมสรฟุตบอลดาเกแนม มาใช้เป็นสนามเหย้า
ต่อมาสโมสรสามารถคว้าแชมป์อิสต์เมียนลีก ฤดูกาล 1990–91 ได้สำเร็จพร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งในระดับคอนเฟเรนซ์ ฤดูกาล 1991–92 โดย เรดบริดจ์ ฟอเรสต์ ได้แข่งขันในคอนเฟเรนซ์อยู่หนึ่งฤดูกาลและจบด้วยอันดับที่ 7
ส่วนของดาเกแนม
[แก้]สโมสรฟุตบอลดาเกแนม ตั้งอยู่ที่ลอนดอนตะวันออก และเคยแข่งขันในคอนเฟเรนซ์ ตั้งขึ้นเป็นสโมสรฟุตบอลสโมสรฟุตบอลดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1992 จากการควบรวม สโมสรฟุตบอลเรดบริดจ์ ฟอเรสต์ ในระดับฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ และ สโมสรฟุตบอลดาเกแนม ในระดับอิสธเมียน พรีเมียร์ลีก โดยทั้ง 2 สโมสรกำลังประสบปัญหาเรื่องผู้ชมในสนามที่ลดน้อยลง หลังจากมีการควบรวมกิจการสโมสร และก่อตั้งขึ้นใหม่ในชื่อ ดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ สโมสรได้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ แทนที่สโมสรเรดบริดจ์ ฟอเรสต์ ที่ถูกยุบไป
การแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของสโมสรเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ.1992 ในฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ ฤดูกาล 1992–93 โดยดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ บุกไปเอาชนะสโมสรฟุตบอลเมอร์เธอร์ ทิดฟิล 0–2 ที่สนามเพนีดาร์เรน พาร์ก, เวลส์[2] โดยสโมสรวนเวียนอยู่ในฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ และตกชั้นไปสู่อิสธเมียน พรีเมียร์ในปี ค.ศ.1996
หลังจากตกชั้นไปสู่อิสธเมียน พรีเมียร์ สโมสรเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาในระดับฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ได้อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์อิสธเมียน พรีเมียร์ ฤดูกาล 1999–2000 และกลายเป็นสโมสรที่แข็งแกร่งสโมสรหนึ่งในฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ โดยจบฤดูกาลด้วยการคว้าอันดับ 3, รองแชมป์ และอันดับ 5 ใน 3 ฤดูกาลแรกที่กลับเข้ามา
ฤดูกาล 2001–02 สโมสรใกล้เคียงกับการได้เลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ฟุตบอลลีกอย่างยิ่ง เมื่อต้องขับเคี่ยวในการคว้าแชมป์กับ สโมสรฟุตบอลบอสตัน ยูไนเต็ด และจบฤดูกาลด้วยการทำคะแนนได้เท่ากัน ทำให้ต้องตัดสินแชมป์กันด้วยผลต่างประตูได้เสีย โดยสโมสรต้องพลาดหวังในการเลื่อนชั้น เมื่อมีผลต่างประตูได้เสียที่เป็นรอง โดยได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ และต้องเล่นอยู่ในฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ต่อไป
แม้จะยังคงต้องเล่นในลีกระดับล่าง แต่ดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยฤดูกาล 2003–04 สามารถสร้างสถิติชนะขาดลอยมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ เมื่อเปิดสนามวิกตอเรีย โรด ถล่ม สโมสรฟุตบอลเฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ถึง 9–0 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2004 [3]
เลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก
[แก้]ในการแข่งขันฟุตบอลคอนเฟเรนซ์ ฤดูกาล 2006–07 สโมสรสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับสองอย่าง ออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด ถึง 14 คะแนน และได้เลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก ซึ่งเป็นลีกอาชีพได้เป็นครั้งแรก
ดาเกแนม แอนด์ เร้ดบริดจ์ ลงแข่งขันฟุตบอลลีก เป็นนัดแรก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.2007 ในลีกทู โดยบุกไปแพ้ต่อสโมสร สต๊อกพอร์ต เคาน์ตี 1–0 ที่สนามเอ็ดเจลีย์ พาร์ก [4] และพบกับชัยชนะเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.2007 ในนัดที่ชนะ ลินคอล์น ซิตี ที่บ้านของตัวเอง 1–0[5] ก่อนจะหนีตกชั้นได้สำเร็จด้วยการจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 20
ฤดูกาล 2009–10 สโมสรประสบความสำเร็จด้วยการคว้าอันดับที่ 7 ในตารางคะแนน ทำให้ได้สิทธิในการแข่งขันเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกวัน โดยในการแข่งขันเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ.2010 ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สโมสรสามารถเอาชนะ ร็อทเธอร์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 3–2 พร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกวัน ได้อย่างเหนือความคาดหมาย
ลีกวัน
[แก้]ฤดูกาล 2010–11 สโมสรฟุตบอลดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์ ลงแข่งขันในฟุตบอลลีกวัน ซึ่งเป็นการแข่งขันในระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเป็นต้นมา โดยการแข่งขันนัดแรกในระดับฟุตบอลลีกวัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ.2010 โดยดาเกแนม แอนด์ เรดบริดจ์แพ้ให้กับสโมสรเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2–0 ต่อมาสโมสรเก็บแต้มแรกได้ในนัดที่เสมอกับ ทรานเมียร์ โรเวอส์ 2–2
สำหรับชัยชนะนัดแรกในลีกวัน เกิดขึ้นในการแข่งขันกับสโมสรฟุตบอล เลย์ตัน โอเรียนท์ โดยดาเกแนมฯ เอาชนะไปได้ 2–0 ด้วยการเหมาทำคนเดียว 2 ประตู จาก โรแม็ง แว็งแซลอต กองกลางชาวฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามตลอดทั้งฤดูกาล สโมสรต้องพบกับความพ่ายแพ้ถึง 23 นัด และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 21 ต้องตกชั้นกลับไปเล่นในฟุตบอลลีกทูในที่สุด
คดีการกำหนดผลการแข่งขัน
[แก้]ในปี ค.ศ.2013 หนังสือพิมพ์ในอังกฤษได้รายงานข่าวการสืบสวนคดีที่มีการกำหนดผลการแข่งขันในลีกอาชีพระดับล่างของอังกฤษ โดยหน่วยสืบสวนอาชญากรรมของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency หรือ NCA) ได้ตามสืบสวนคดีกว่า 1 ปีจนนำไปสู่การจับกุม 3 นักฟุตบอล และกลุ่มนักธุรกิจ ก่อนจะมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยในคดี [6]
โดย ไมเคิล บัวเต็ง ,ฮาคีม อเดลาคุน และ โมเสส ซไวบู 3 นักฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลไวท์ ฮอว์ก ในลีกสมัครเล่นได้ถูกจับกุม ในข้อหาร่วมกันพยายามติดสินบนเพื่อกำหนดผลการแข่งขันระหว่างเอเอฟซี วิมเบิลดัน และดาเกแนม แอนด์ เร้ดบริดจ์ ในการแข่งขันฟุตบอลลีกทูเดือนพฤศจิกายน 2013 [7][8] [9][10] [11][12] โดยศาลเมืองเบอร์มิงแฮม ได้ยกฟ้องฮาคีม อเดลาคุน และลงโทษจำคุกไมเคิล บัวเต็ง และโมเสส ซไวบู คนละ 16 เดือน
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
[แก้]- ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2015
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้จัดการทีม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ↑ "Ground History". daggers.co.uk. Dagenham & Redbridge Football Club. 17 July 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-19. สืบค้นเมื่อ 13 November 2010.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-23. สืบค้นเมื่อ 2015-08-23.
- ↑ http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/eng_conf/3489720.stm
- ↑ http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/eng_div_3/6931028.stm
- ↑ http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/eng_div_3/6963604.stm
- ↑ http://rakball.net/overview.php?id=71609
- ↑ http://www.croydonguardian.co.uk/news/10859213.Two_footballers_charged_with_match_fixing/?ref=twtrec
- ↑ "Two Whitehawk FC players charged with match fixing". The Argus. สืบค้นเมื่อ 6 December 2013.
- ↑ "Match-fixing: Third footballer charged". BBC News. สืบค้นเมื่อ 17 January 2014.
- ↑ "Third former Whitehawk footballer charged in match-fixing investigation". The Argus. สืบค้นเมื่อ 17 January 2014.
- ↑ http://www.bbc.co.uk/news/uk-england-27939919
- ↑ http://www.independent.co.uk/news/uk/matchfixing-trio-sent-to-prison-9552097.html