เรือนจำอะบูฆุร็อยบ์
33°17′33″N 44°03′54″E / 33.2925°N 44.0650°E
เรือนจำอะบูฆุร็อยบ์ (อาหรับ: سجن أبو غريب) เป็นเรือนจำในอะบูฆุร็อยบ์ ประเทศอิรัก ตั้งอยู่ห่างจากแบกแดดไปทางทิศตะวันตก 32 กิโลเมตร เรือนจำนี้เคยเปิดดำเนินการในคริสต์ทศวรรษ 1950 และเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดที่มีการทรมาน การประหารชีวิตรายสัปดาห์ และสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เรือนจำนี้ถูกซัดดัม ฮุสเซน และกองทัพสหรัฐในเวลาต่อมาใช้ควบคุมนักโทษทางการเมือง และเรือนจำนี้เป็นที่รู้จักกันในเรื่องการทรมานและวิสามัญฆาตกรรมก่อนจะถูกปิดใน ค.ศ. 2014
อะบูฆุร็อยบ์ได้รับความสนใจจากนานาชาติใน ค.ศ. 2003 หลังการบุกครองอิรัก เมื่อมีการเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวจากการทรมานและทำร้ายนักโทษโดยผู้คุมในเรือนจำส่วนที่กองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐเป็นผู้ดำเนินการ ผู้สอบสวนชาวอิสราเอลก็อยู่ในอิรักร่วมกับกองกำลังผสม เพราะพวกเขาพูดภาษาอาหรับได้[1][2]
ใน ค.ศ. 2006 สหรัฐได้ถ่ายโอนอำนาจควบคุมอะบูฆุร็อยบ์ทั้งหมดให้แก่รัฐบาลกลางอิรัก อะบูฆุร็อยบ์เปิดตัวใหม่ใน ค.ศ. 2009 ในชื่อ เรือนจำกลางแบกแดด (سجن بغداد المركزي) แต่ก็ถูกปิดตัวใน ค.ศ. 2014 เนื่องจากความกังวลในด้านความปลอดภัยจากสงครามกลางเมืองอิรัก ในปัจจุบัน เรือนจำนี้ยังคงว่างเปล่า และมีการค้นพบสุสานหมู่ในสมัยซัดดัมที่นี่
ผู้ต้องขังคนสำคัญ
[แก้]- อิบรอฮีม เอาวาด อิบรอฮีม อะลี อัลบัดรี[3]
- แฟร์ซอด บอโซฟต์[4]
- ยูนิส เคาะฎ็อยร์ อับบาส[5]
- อิมาด อัลญะนาบี[6]
- มะนาฎิล อัลญะมาดี[7]
- อะบู อับดุรเราะห์มาน อัลบีลาวี[8]
- บิล บาร์ลูน[9]
- ษะฮี มุฮัมมัด ศ็อบบาร[10]
- จอห์น นิโคล นักบินของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรที่ถูกยิงตกลงมาและจับกุมตัวโดยกองทัพอิรักในปฏิบัติการโล่ทะเลทราย[11][12][13]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://news.bbc.co.uk/2/hi/middle_east/3863235.stm
- ↑ https://www.democracynow.org/2016/4/7/ex_abu_ghraib_interrogator_israelis_trained
- ↑ Eaton, Joshua (25 August 2017). "U.S. Military Now Says ISIS Leader Was Held in Notorious Abu Ghraib Prison". The Intercept_. สืบค้นเมื่อ 27 February 2018.
- ↑ Leader (18 March 1990). "Farzad Bazoft". The Observer. London. สืบค้นเมื่อ 3 September 2011.
- ↑ Tucker, Michael (2007-02-20). "My Prisoner, My Brother". Vanity Fair. สืบค้นเมื่อ 2008-06-11.
- ↑ Risling, Greg (May 7, 2008). "Iraqi alleges Abu Ghraib torture, sues US contractors". The Seattle Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-04. สืบค้นเมื่อ 2010-02-11.
- ↑ Hettena, Seth (17 February 2005). "Reports detail Abu Ghraib prison death; was it torture?". Associated Press. สืบค้นเมื่อ 23 June 2009.
- ↑ "Source: al Qaeda leader urged affiliate to 'do something'". CNN. 5 August 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-22. สืบค้นเมื่อ 21 October 2014.
- ↑ "2 U.S. Wives Quitting Iraq". 11 May 1995 – โดยทาง NYTimes.com.
- ↑ "Detainees Abused?". CNN. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
- ↑ "Gulf War ex-POW: Abuse claims horrifying". CNN. 3 May 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-06. สืบค้นเมื่อ 27 February 2018.
- ↑ Bunden, Mark (10 November 2017). "I don't bear my Iraqi captors ill will, says Gulf War RAF hero". Evening Standard. London. สืบค้นเมื่อ 27 February 2018.
- ↑ Nichol, John (2 May 2004). "I was left bloody and bruised. Now we've become the torturers". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 27 February 2018.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
