ข้ามไปเนื้อหา

กรมส่งเสริมการเรียนรู้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กรมส่งเสริมการเรียนรู้
Department of Learning Encouragement
เครื่องหมายราชการ
ภาพรวมกรม
ก่อตั้ง24 มีนาคม พ.ศ. 2522; 45 ปีก่อน (2522-03-24)
กรมก่อนหน้า
  • กองการศึกษาผู้ใหญ่
  • กรมการศึกษานอกโรงเรียน
  • สำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน
  • สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่เลขที่ 319 วังจันทรเกษม ถนนราชดำเนินนอก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
บุคลากร19,839 คน (พ.ศ. 2566)[1]
งบประมาณต่อปี11,310,688,600 บาท
(พ.ศ. 2568)[2]
ฝ่ายบริหารกรม
  • ธนากร ดอนเหนือ, อธิบดี
  • ชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล, รองอธิบดี
  • เอกราช ชวีวัฒน์, รองอธิบดี
  • ว่าง, รองอธิบดี
ต้นสังกัดกรมกระทรวงศึกษาธิการ
เว็บไซต์เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (อังกฤษ: Department of Learning Encouragement, DOLE) หรือย่อว่า สกร. เป็นส่วนราชการระดับกรม ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่หน้าที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในประเทศไทย ยกฐานะมาจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เดิมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2483 เป็นกองการศึกษาผู้ใหญ่ และจัดตั้งเป็นกรมครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2522 ในชื่อ "กรมการศึกษานอกโรงเรียน" หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า "กศน."[3]

ประวัติ

[แก้]

ยุคที่1 กองการศึกษาผู้ใหญ่

[แก้]

การศึกษาผู้ใหญ่ เริ่มมีอย่างเป็นทางการในปี 2483 โดยรัฐบาลในขณะนั้น ได้ให้มีการจัดตั้ง "กองการศึกษาผู้ใหญ่" สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรับผิดชอบงานการศึกษาผู้ใหญ่โดยตรง และได้ริเริ่มโครงการรณรงค์การรู้หนังสือทั่วประเทศ พร้อมกับประกาศใช้กฎหมายบังคับให้ประชาชนผู้ไม่รู้หนังสือที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 45 ปี เสียค่าเล่าเรียนเป็นรายปี จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้รู้หนังสือแล้ว ซึ่งโครงการรณรงค์ดังกล่าวประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2

ยุคที่2 กรมการศึกษานอกโรงเรียน

[แก้]

ต่อมา ได้มีการขยายโอกาสการศึกษาผู้ใหญ่อย่างกว้างขวางในช่วงปี 2513-2523 รัฐบาลจึงได้ยกฐานะกองการศึกษาผู้ใหญ่ ขึ้นเป็น "กรมการศึกษานอกโรงเรียน" ขึ้น เพื่อจัดการศึกษานอกโรงเรียนสำหรับประชาชนในวันที่ 24 มีนาคม 2522[4]

ยุคที่3 สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

[แก้]

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 ได้มีการปฏิรูประบบราชการ และมีการยุบรวมกรมต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการจากเดิม 14 กรม เหลือเพียง 5 สำนักงาน ทำให้ กรมการศึกษานอกโรงเรียน ถูกยุบรวมเป็นสำนักงานบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 สำนักฯ จึงปรับภารกิจเป็น "สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย" (อังกฤษ: Office of the Non-Formal and Informal Education : NFE)

ยุคปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเรียนรู้

[แก้]

กระทั่งวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 โดยมีสาระสำคัญคือการยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 และยกฐานะ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็น "กรมส่งเสริมการเรียนรู้" โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นไป 60 วันหรือตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566[5][6]

หน่วยงานในสังกัด

[แก้]

กรมส่งเสริมการเรียนรู้ แบ่งส่วนราชการในกรม ดังนี้

  • กลุ่มเลขานุการกรม
  • กลุ่มการคลังและสินทรัพย์
  • กลุ่มบริหารบุคคลและนิติการ
  • กลุ่มพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา
  • กลุ่มส่งเสริมกิจการการศึกษาและเครือข่าย
  • กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน
  • กลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ
  • กลุ่มพัฒนาระบบการทดสอบ
  • กลุ่มตรวจสอบภายใน
  • กลุ่มพัฒนาระบบริหาร
  • ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา
  • สถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย)
  • สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัด/กรุงเทพมหานคร (77 แห่ง)
    • ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอ/เขต (928 แห่ง)
      • ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบล/แขวง (7,435 แห่ง)
      • ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง" (792 แห่ง)
      • ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยมอแกน
  • ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายพิเศษ
  • ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก (วิทยาลัยในวัง)
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต
  • สถาบันส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
  • สถาบันการศึกษาทางไกล
  • สถาบันการศึกษาและพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร
  • สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาค 5 ภาค (เหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ, กลาง, ตะวันออก, ใต้)
  • ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์
  • ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • ศูนย์ฝึกวิชาชีพจังหวัดกาญจนบุรี "สามสงฆ์ทรงพระคุณ"
  • ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) (จังหวัดชุมพร เชียงราย ปัตตานี มุกดาหาร สระแก้ว สุรินทร์ อุตรดิตถ์)
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (16 จังหวัด) (กาญจนบุรี ขอนแก่น ตรัง พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ ลำปาง สระแก้ว สมุทรสาคร ยะลา อุบลราชธานี)
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
  • อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]