อำเภอไพรบึง
อำเภอไพรบึง | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Phrai Bueng |
พระธาตุวัดไพรบึง | |
คำขวัญ: เมืองล้านเป็ด เพชรพระธาตุ ปราสาทใหญ่ ไทยสี่เผ่า | |
แผนที่จังหวัดศรีสะเกษ เน้นอำเภอไพรบึง | |
พิกัด: 14°44′54″N 104°21′42″E / 14.74833°N 104.36167°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ศรีสะเกษ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 266.8 ตร.กม. (103.0 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 47,368 คน |
• ความหนาแน่น | 177.54 คน/ตร.กม. (459.8 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 33180 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 3306 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอไพรบึง หมู่ที่ 20 ถนนพยุห์-ขุนหาญ ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ 33180 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
ไพรบึง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอขุขันธ์ ต่อมาได้แยกออกมาจัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอ ในปี พ.ศ. 2511 และได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอไพรบึง ในปี พ.ศ. 2518
ที่ตั้งและอาณาเขต
[แก้]อำเภอไพรบึงตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 42 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอวังหินและอำเภอพยุห์
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอศรีรัตนะและอำเภอขุนหาญ
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอขุนหาญและอำเภอขุขันธ์
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอขุขันธ์
ประวัติศาสตร์และพัฒนาการ
[แก้]หลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ในเขตอำเภอไพรบึง แสดงให้เห็นพัฒนาการการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในอำเภอแห่งนี้ตั้งแต่ประมาณ 1,000 ปีเป็นต้นมา โดยเฉพาะในวัฒนธรรมสมัยอาณาจักรขอมโบราณ ดังปรากฏพบชุมชนโบราณและโบราณสถาน-โบราณวัตถุในยุคสมัยและรูปแบบศิลปะขอมหลายแห่ง เช่น ปราสาทเยอ และแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาทเยอ ตำบลปราสาทเยอ, แหล่งโบราณคดีบ้านหัวช้าง ตำบลสำโรงพลัน [1]
ส่วนในยุคปัจจุบันหรือช่วงเวลาระยะเวลาร่วมสมัยนั้น เดิมอำเภอไพรบึงเป็นท้องที่อยู่ในปกครองของอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้นในปี พ.ศ. 2506 ประชากรในตำบลไพรบึง สำโรงพลัน ดินแดง และ ตำบลปราสาทเยอ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกได้เรียกร้องขอให้แยกและยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ นายยอด อ่อนโอภาส นายอำเภอขุขันธ์ในขณะนั้น จึงได้จัดประชุมประชาชนใน 4 ตำบล ดังกล่าว ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งกิ่งอำเภอที่ บ้านไพรบึง ตำบลไพรบึง และให้เรียกชื่อว่ากิ่งอำเภอไพรบึง และได้ขออนุมัติจากกระทรวงมหาดไทย ให้จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอและได้รับงบประมาณ ในปี พ.ศ. 2511 และเปิดที่ว่าการกิ่งอำเภอเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2512 โดยมีนายยศ ทองสุทธิ์ ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ เป็นคนแรก และได้ยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2518 โดยมีนายมั่น พรหมบุตร ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอเป็นคนแรก
การแบ่งเขตการปกครอง
[แก้]การปกครองส่วนภูมิภาค
[แก้]อำเภอไพรบึงแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 6 ตำบล 80 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | ไพรบึง | (Phrai Bueng) | 21 หมู่บ้าน | ||||||
2. | ดินแดง | (Din Daeng) | 9 หมู่บ้าน | ||||||
3. | ปราสาทเยอ | (Prasat Yoe) | 11 หมู่บ้าน | ||||||
4. | สำโรงพลัน | (Samrong Phlan) | 17 หมู่บ้าน | ||||||
5. | สุขสวัสดิ์ | (Suk Sawat) | 12 หมู่บ้าน | ||||||
6. | โนนปูน | (Non Pun) | 10 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
[แก้]ท้องที่อำเภอไพรบึงประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลไพรบึง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลไพรบึงและตำบลสำโรงพลัน
- เทศบาลตำบลสำโรงพลัน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสำโรงพลัน (นอกเขตเทศบาลตำบลไพรบึง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลไพรบึง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไพรบึง (นอกเขตเทศบาลตำบลไพรบึง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลดินแดง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดินแดงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปราสาทเยอ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปราสาทเยอทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสุขสวัสดิ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสุขสวัสดิ์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโนนปูน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโนนปูนทั้งตำบล
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ
[แก้]- หนองใหญ่หรือบึงนกเป็ดน้ำไพรบึง ตั้งอยู่เขตเทศบาลตำบลไพรบึง เป็นแหล่งดูนกเป็ดน้ำ แหล่งเลี้ยงปลาในกระชัง
- ห้วยแฮด ในเขตตำบลดินแดง
- ห้วยชลัง และ หนองกันแจม ในเขตตำบลไพรบึง
สภาพทางสังคมและวัฒนธรรม
[แก้]ประชากรและกลุ่มชาติพันธุ์
[แก้]ประชากรในอำเภอไพรบึง เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย มีความคล้ายคลึงและใกล้เคียงกันทั้งลักษณะทางกายภาพและวัฒนธรรม แต่มีภาษาพูดที่แตกต่างกัน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 กลุ่มชาติพันธุ์ คือ เขมร กูย(หรือกวยหรือส่วย) เยอ ลาว ดังปรากฏตามคำขวัญของอำเภอว่า "ไทยสี่เผ่า" ชาวเขมรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ตำบลไพรบึง ตำบลสำโรงพลัน ตำบลดินแดง ชาวกูยและชาวเยอ อาศัยอยู่ที่ตำบลปราสาทเยอ ตำบลโนนปูน และชาวลาวอาศัยอยู่ที่ตำบลสุขสวัสดิ์ กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ประกอบอาชีพหลักทางการเกษตรและส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา มีประเพณีพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนาและวงจรชีวิตความเป็นอยู่ตั้งแต่เกิดจนตายในแต่ละเดือนของแต่ละรอบปี [2]
วัดในพุทธศาสนาที่สำคัญ
[แก้]- วัดไพรบึง (วัดจำปาสุรภีย์) ในเขตเทศบาลตำบลไพรบึง เป็นวัดประจำอำเภอไพรบึงและเป็นที่ทำการเจ้าคณะอำเภอไพรบึง ภายในวัดมีพระพุทธเจดีย์ไพรบึง หรือพระธาตุไพรบึงซึ่งเป็นพระธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ สร้างตามแบบศิลปะอินเดียแบบเจดีย์พุทธคยา สูงประมาณ 60 เมตร ยอดฉัตรด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญและได้รับการเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษและชาวไทยอีกแห่งหนึ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปีในช่วงคาบเกี่ยวกับวันมาฆบูชา ทางวัดกำหนดให้มีงานประเพณีสักการะพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ
- วัดบ้านจังกระดาน ในเขตเทศบาลตำบลไพรบึง
- วัดสำโรงพลัน บ้านสำโรงพลัน ในเขตเทศบาลตำบลไพรบึง
- วัดสิเรียมพุทธาราม บ้านสังกัน ตำบลสำโรงพลัน
- วัดโพนปลัด บ้านโพนปลัด ตำบลสุขสวัสดิ์
- วัดปราสาทเยอเหนือ บ้านปราสาทเยอ ตำบลปราสาทเยอ ภายในวัดมีปราสาทโบราณ ศิลปะขอม สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ปัจจุบันชำรุดหักพัง และวัดแห่งนี้ยังเป็นวัดแห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2514[3]
งานประเพณีและเทศกาลสำคัญ
[แก้]ประชาชนทุกภาคส่วน ส่วนราชการ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอไพรบึง ร่วมกันจัดงานประเพณีและเทศกาลตามแบบแผนทางวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมหลายวาระในแต่ละรอบปี โดยมีงานประเพณีและเทศกาลสำคัญคือ
- งานประเพณีสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุวัดไพรบึง ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีในช่วงคาบเกี่ยวกับวันมาฆบูชา
- ประเพณีเบ็ญ(บุญเดือนสิบ)หรือแซนโดนตาหรือสารทเขมร ตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ ถึง แรม 15 ค่ำเดือน 10[4]
- เทศกาลสงกรานต์
- เทศกาลเข้าพรรษา
- เทศกาลออกพรรษา
- เทศกาลลอยกระทง
การศึกษา
[แก้]โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่สำคัญ
[แก้]- โรงเรียนอนุบาลไพรบึง โรงเรียนประถมศึกษาประจำอำเภอไพรบึง
- โรงเรียนบ้านสวาย-สนวน ตำบลไพรบึง
- โรงเรียนบ้านติ้ว ตำบลไพรบึง
- โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน ตำบลสำโรงพลัน
- โรงเรียนบ้านไทร ตำบลสำโรงพลัน
- โรงเรียนหนองอารีพิทยา ตำบลดินแดง
- โรงเรียนบ้านปราสาทเยอ ตำบลปราสาทเยอ
- โรงเรียนบ้านโพนปลัด ตำบลสุขสวัสดิ์
- โรงเรียนบ้านตาเจา ตำบลโนนปูน
โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
[แก้]- โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม โรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอไพรบึง
- โรงเรียนกุญชรศิรวิทย์ ตั้งอยู่ที่บ้านหัวช้าง ตำบลสำโรงพลัน
- โรงเรียนโนนปูนวิทยาคม ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนปูน
- โรงเรียนวัดไพรบึงวิทยา ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านไพรบึง เขตเทศบาลตำบลไพรบึง
- โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดไพรบึง ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลตำบลไพรบึง
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอไพรบึง
[แก้]- ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี
- ศูนย์บริการคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การแพทย์และสาธารณสุข
[แก้]- โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 1 แห่ง คือ [โรงพยาบาลไพรบึง] (ขนาด 36 เตียง และกำลังอยู่ระหว่างขยายเป็น 66 เตียง)
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล (รพ.สต.) 6 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่ม ตำบลไพรบึง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตาโมกข์ ตำบลสำโรงพลัน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปราสาทเยอ ตำบลปราสาทเยอ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองอารี ตำบลดินแดง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกันตรวจ ตำบลโนนปูน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไม้แก่น ตำบลสำโรงพลัน
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอไพรบึง
- คลินิกทางการแพทย์ พยาบาลและการผดุงครรภ์
- ร้านจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน
การกีฬาและสันทนาการ
[แก้]- สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติหนองปิด
- สวนสาธารณะหนองใหญ่หรือบึงนกเป็ดน้ำไพรบึง
- สนามกีฬาเทศบาลตำบลไพรบึง (สนามฟุตบอล, สนามวอลเลย์บอล, สนามแบดมินตัน, สนามบาสเก็ตบอล, สนามเซปักตะกร้อ และลู่วิ่ง)
- ศูนย์บริการฟิตเนสเทศบาลตำบลไพรบึง
- ลานกีฬาบริการอุปกรณ์บริหารร่างกายเทศบาลตำบลไพรบึง
- สนามฟุตบอลหน้าที่ว่าการอำเภอไพรบึง
- สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลไพรบึง
- สนามกีฬาโรงเรียนไพรบึงวิทยาคม
- ลานกีฬาที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไพรบึง (สนามบาสเก็ตบอล, สนามวอลเลย์บอล, สนามเซปักตะกร้อ, สนามเปตอง)
- สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลปราสาทเยอ
- การแข่งขันกีฬา "ไพรบึงคัพ" หรือ "เป็ดน้ำเกมส์" ในแต่ละปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างส่วนราชการต่างๆ ท้องถิ่นและประชาชนในอำเภอ
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
[แก้]- สถานีตำรวจภูธรไพรบึง
- หน่วยบริการประชาชน สภ.ไพรบึง บริเวณสี่แยกหัวช้าง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24
- หน่วยบริการประชาชน สภ.ไพรบึง บริเวณตำบลปราสาทเยอ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2111
- หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทร์เดชา
- กองร้อย อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษที่ 10 (อำเภอไพรบึง)
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อำเภอไพรบึง
- สถานีดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลไพรบึง
สภาพเศรษฐกิจ
[แก้]โครงสร้างหลักทางเศรษฐกิจของอำเภอไพรบึงมาจากการเกษตรกรรม ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง การบริการและอุตสหกรรมขนาดเล็ก พืชเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ข้าวหอมมะลิ และพืชสวน ตลอดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรหลายชนิด เช่น ไข่เค็มพอกดินจอมปลวก ซึ่งเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ที่ได้รับการส่งเสริมของอำเภอ พื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่เขตเทศบาลตำบลไพรบึงและสี่แยกหัวช้าง ซึ่งเป็นชุมทางการเดินทางและการคมนาคมขนส่งที่คึกคัก ชุมทางแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักรถและพักผ่อนสำหรับผู้เดินทาง ซึ่งประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่งและขนาดเล็ก 1 แห่ง, ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ, รีสอร์ตสำหรับพักค้างคืน 2 แห่ง ตลอดจนป้อมตำรวจหน่วยบริการประชาชนของสถานีตำรวจภูธรไพรบึง สี่แยกหัวช้างจึงเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอ
การพลังงาน การประปาและการชลประทาน
[แก้]- สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอไพรบึง
- สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่และแก๊สธรรมชาติ จำนวน 3 แห่ง บริเวณสี่แยกหัวช้าง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่งในเขตเทศบาลตำบลไพรบึงและตำบลอื่นๆ
- สำนักงานการประปาเทศบาลตำบลไพรบึง (สถานีสูบน้ำ, โรงกรองน้ำ, ระบบจ่ายน้ำ)
- อ่างเก็บน้ำและฝายทดน้ำในระบบชลประทานเพื่อการเกษตรหลายแห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยชลัง อ่างเก็บน้ำบ้านคอก (หนองไฮ)
การสื่อสารและโทรคมนาคม
[แก้]- ที่ทำการไปรษณีย์ไพรบึง (บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด)
- ชุมสายโทรศัพท์และโทรคมนาคมไพรบึง (บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มหาชน)
- เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (AIS, DTAC, NT, True)
การเดินทางและการคมนาคมขนส่ง
[แก้]จากตัวจังหวัดศรีสะเกษ มายังอำเภอไพรบึง
[แก้]- โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 221 (ศรีสะเกษ-กันทรลักษ์) ผ่านอำเภอพยุห์ จนถึงสี่แยกพยุห์ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2111 (พยุห์-ไพรบึง-ขุนหาญ) ไปจนถึงตัวอำเภอไพรบึง
- โดยรถประจำทางสาย 4189 เส้นทางศรีสะเกษ-พยุห์-ไพรบึง-ขุนหาญ ซึ่งเป็นบริการเดินรถของบริษัท ขุนหาญพัฒนา จำกัด ให้บริการเดินรถในเส้นทางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 221 และ 2111
- โดยรถประจำทางสาย 4313 เส้นทางศรีสะเกษ-ไพรบึง (สิ้นสุดที่ตำบลดินแดง)
ระยะทางจากตัวจังหวัดศรีสะเกษถึงอำเภอไพรบึง ประมาณ 42 กิโลเมตร
จากกรุงเทพมหานคร มายังอำเภอไพรบึง
[แก้]- โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) จากกรุงเทพมหานคร มาจนถึงสามแยกจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาที่บริเวณสามแยกดังกล่าวเพื่อเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านจังหวัดสระบุรี จนเข้าสู่เขตจังหวัดนครราชสีมา ผ่านอำเภอปากช่อง มาจนถึงทางต่างระดับสีคิ้ว จากนั้นใช้ทางต่างระดับสีคิ้วเพื่อเข้าสู่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (สายโชคชัย-เดชอุดม) แล้วใช้เส้นทางดังกล่าวผ่านแยกปักธงชัย - แยกโชคชัย - อำเภอหนองบุญมาก - อำเภอหนองกี่ - อำเภอนางรอง - อำเภอประโคนชัย - อำเภอปราสาท - แยกอำเภอสังขะ - แยกอำเภอภูสิงห์ - แยกอำเภอขุขันธ์ แล้วตรงไปจนถึงแยกหัวช้าง จากแยกนี้เลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2111 เพื่อเข้าสู่ตัวอำเภอไพรบึงในเขตเทศบาลตำบลไพรบึง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแยกดังกล่าวเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
- โดยรถโดยสาร
- เส้นทางกรุงเทพฯ - ไพรบึง ซึ่งเป็นบริการรถปรับอากาศชั้น 1 ของ บริษัท เชิดชัย จำกัด ไป-กลับ วันละ 1 เที่ยว โดยออกจากไพรบึง ในเวลา 20.45 น. และ ออกจากกรุงเทพฯ ในเวลา 20.45 น.
- เส้นทางกรุงเทพฯ - กันทรลักษ์(อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร) บริการเดินรถโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัทเดินรถเอกชน (ปรับอากาศชั้น 1 และ 2)
- เส้นทางกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี บริการเดินรถโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด (ปรับอากาศชั้น 1 และ 2) และบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด (รถปรับอากาศ V.I.P)
- เส้นทางกรุงเทพฯ - เดชอุดม บริการเดินรถโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด (ปรับอากาศชั้น 1 และ 2)
- เส้นทางกรุงเทพฯ - บุญฑริก บริการเดินรถโดยบริษัท ขนส่ง จำกัด (ปรับอากาศชั้น 1 และ 2)
ในเส้นทางลำดับที่ 2-5 มีบริการวันละหลายเที่ยว ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน จากต้นทาง-ปลายทาง ผ่านแยกหัวช้างในเส้นทางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางมายังอำเภอไพรบึง สามารถใช้บริการเดินรถดังกล่าวเพื่อมาลงที่แยกหัวช้าง แล้วต่อมายังอำเภอไพรบึง ด้วยบริการรถโดยสารสาย ศรีสะเกษ-ขุนหาญ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2111 หรืออาจใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างจากสี่แยกหัวช้างมายังตัวอำเภอไพรบึง ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร การเดินทางจากกรุงเทพมหานครมายังตัวอำเภอไพรบึงใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 8-9 ชั่วโมง เป็นระยะทางราว 500 กิโลเมตร เศษ
ทางแยกหัวช้าง ชุมทางการเดินทาง
[แก้]ทางแยกหัวช้างในเขตบ้านหัวช้าง ตำบลสำโรงพลัน ซึ่งอยู่ห่างจากเขตเทศบาลตำบลไพรบึง (ตัวอำเภอ) ไปทางทิศใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2111 (ช่วงไพรบึง-ขุนหาญ) ถือเป็นชุมทางการคมนาคมและการขนส่งขนาดใหญ่จุดหนึ่ง เนื่องจากเป็นจุดตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (ถนนโชคชัย-เดชอุดม) ชุมทางแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักรถและพักผ่อนสำหรับผู้เดินทาง ซึ่งประกอบด้วยสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่ง และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดเล็ก 1 แห่ง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านจำหน่ายของฝาก ร้านเครื่องดื่ม สถานพักตากอากาศสำหรับค้างคืน 2 แห่ง ตลอดจนป้อมตำรวจหน่วยบริการประชาชนของสถานีตำรวจภูธรไพรบึง ทางแยกหัวช้างจึงเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอไพรบึง
จากชุมทางดังกล่าวด้านตะวันออกเป็นเส้นทางเชื่อมโยงไปยังอำเภอกันทรลักษ์และจังหวัดอุบลราชธานี ด้านทิศใต้ไปยังอำเภอขุนหาญ ด้านทิศตะวันตกไปยังอำเภอขุขันธ์และอำเภอภูสิงห์ ตลอดจนอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดสุรินทร์ (อำเภอสังขะ อำเภอปราสาท) จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอประโคนชัย อำเภอนางรอง อำเภอหนองกี่) และจังหวัดนครราชสีมา (อำเภอหนองบุญมาก อำเภอโชคชัย อำเภอปักธงชัย อำเภอสีคิ้ว) แล้วบรรจบกับถนนมิตรภาพ
ชาวไพรบึงที่มีชื่อเสียง
[แก้]- พระครูประสาธน์ขันธคุณ (หลวงปู่มุม อินทปญโญ), วัดปราสาทเยอเหนือ ตำบลปราสาทเยอ
แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ
[แก้]อำเภอไพรบึง เป็นอำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ อาทิ
- วัดไพรบึง(วัดจำปาสุรภีย์) เป็นที่ตั้ง พระพุทธเจดีย์ไพรบึง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า พระธาตุไพรบึง ศิลปะแบบเจดีย์พุทธคยา สูงประมาณ 60 เมตร ส่วนยอดของพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
- วัดปราสาทเยอเหนือ บ้านปราสาทเยอ มีปราสาทโบราณ ศิลปะขอม สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ปัจจุบันชำรุดหักพัง และวัดแห่งนี้ยังเป็นวัดแห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2514[5]
- บึงนกเป็ดน้ำไพรบึง (หนองใหญ่) เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่ มีฝูงนกเป็ดอาศัยอยู่น้ำหนาแน่นโดยเฉพาะในฤดูหนาว จึงเป็นแหล่งดูนกเป็ดน้ำที่สำคัญ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ กรมศิลปากร. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดศรีสะเกษ.คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว; [บรรณาธิการ : ปรุงศรี วัลลิโภดม],กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544.
- ↑ กรมศิลปากร. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดศรีสะเกษ.คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว; [บรรณาธิการ : ปรุงศรี วัลลิโภดม],กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544.
- ↑ ข่าวประชาสัมพันธ์[ลิงก์เสีย]อบต.ปราสาทเยอ สืบค้นวันที่ 28 กันยายน 2554
- ↑ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ. ประเพณีแซนโดนตาประเพณีแซนโดนตา
- ↑ ข่าวประชาสัมพันธ์[ลิงก์เสีย]อบต.ปราสาทเยอ สืบค้นวันที่ 28 กันยายน 2554
- กรมศิลปากร. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดศรีสะเกษ.คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว; [บรรณาธิการ : ปรุงศรี วัลลิโภดม],กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544.
- เทศบาลตำบลไพรบึง.รายงานสรุป ประจำปีงบประมาณ 2553.จัดทำโดยเทศบาลตำบลไพรบึง
- สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ. ประเพณีแซนโดนตาประเพณีแซนโดนตา